Ways of Curriculum Making : การทอสัมพันธ์ระหว่างศิลปะแห่งการสอนและวิทยาศาสตร์ของการเรียนรู้

 Ways of Curriculum Making : การทอสัมพันธ์ระหว่างศิลปะแห่งการสอนและวิทยาศาสตร์ของการเรียนรู้

สำหรับผู้ที่หลงใหลในศิลปะแห่งการศึกษา “Ways of Curriculum Making” โดย Lawrence Stenhouse นับเป็นผลงานชิ้นเอกที่ต้องหามาอ่านอย่างยิ่ง หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่เพียงแค่คู่มือในการออกแบบหลักสูตรเท่านั้น แต่ยังเป็นการชวนเราไปสำรวจความสัมพันธ์อันลุ่มลึกระหว่างศิลปะแห่งการสอนและวิทยาศาสตร์ของการเรียนรู้

Stenhouse ผู้ซึ่งเป็นนักคิดในวงการศึกษาชาวอังกฤษ ได้นำเสนอแนวคิดในการออกแบบหลักสูตรที่เน้นการมีส่วนร่วมและการสะท้อนของครูผู้สอน เขาเชื่อว่าหลักสูตรที่ดีที่สุดเกิดจากกระบวนการสร้างสรรค์ร่วมกันระหว่างครู นักเรียน และนักวิชาการ ซึ่งจะนำไปสู่การเรียนรู้ที่แท้จริง

Stenhouse ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดแบบ “one-size-fits-all” สำหรับการออกแบบหลักสูตร เขาโต้แย้งว่าแต่ละบริบทการศึกษาและกลุ่มนักเรียนมีความต้องการที่แตกต่างกัน ดังนั้น การออกแบบหลักสูตรต้องคำนึงถึงความหลากหลายของผู้เรียน

ในหนังสือ “Ways of Curriculum Making” Stenhouse ได้เสนอวิธีการที่ครูผู้สอนสามารถนำไปใช้ในการออกแบบหลักสูตร โดยแบ่งเป็นขั้นตอนดังนี้:

  1. การวิเคราะห์บริบท: ครูผู้สอนต้องทำความเข้าใจบริบทของโรงเรียน นักเรียน และชุมชนที่ตนเองทำงาน
  2. การกำหนดเป้าหมายและวัตถุประสงค์:

ครูผู้สอนต้องกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนสำหรับหลักสูตร ซึ่งควรจะเป็นไปได้และสอดคล้องกับความต้องการของนักเรียน

  1. การเลือกเนื้อหา: ครูผู้สอนต้องเลือกเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับเป้าหมายของหลักสูตร และน่าสนใจสำหรับนักเรียน

  2. การออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้: ครูผู้สอนต้องออกแบบกิจกรรมที่กระตุ้นให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมและคิดอย่าง सकริย

  3. การประเมินผล: ครูผู้สอนต้องใช้เครื่องมือที่หลากหลายในการประเมินผลการเรียนรู้ของนักเรียน และใช้ข้อมูลจากการประเมินผลเพื่อปรับปรุงหลักสูตร

หัวใจสำคัญของแนวคิด Stenhouse คือการให้ความสำคัญกับ “inquiry” หรือการค้นคว้า ครูผู้สอนและนักเรียนจะต้องร่วมกันค้นคว้าและค้นพบความรู้ใหม่ๆ แทนที่จะยอมรับความรู้ที่ถูกกำหนดมาจากภายนอก

นอกจากเนื้อหาหลักแล้ว “Ways of Curriculum Making” ยังเต็มไปด้วยตัวอย่างและกรณีศึกษาที่ช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจแนวคิดของ Stenhouse ได้อย่างลึกซึ้ง

หนังสือเล่มนี้มีหน้าตาเรียบง่าย แต่มีความหมายล้ำลึก เป็นเหมือนโบราณวัตถุชิ้นหนึ่งที่รอให้ผู้คนมาค้นพบความงดงามและคุณค่าภายใน

ตารางเปรียบเทียบแนวคิดการออกแบบหลักสูตร:

แนวคิด ความสำคัญ ข้อดี ข้อเสีย
แบบดั้งเดิม (Traditional Approach) การถ่ายทอดความรู้จากครูสู่ผู้เรียน ง่ายต่อการจัดการ ไม่กระตุ้นให้ผู้เรียนมีส่วนร่วม
แบบ inquiry-based learning (Inquiry-Based Learning) การค้นคว้าและค้นพบความรู้ กระตุ้นให้ผู้เรียนมีส่วนร่วม ต้องใช้เวลาในการเตรียม

สรุป

“Ways of Curriculum Making” เป็นหนังสือที่ทรงคุณค่าสำหรับครูผู้สอน นักการศึกษา และทุกคนที่สนใจในเรื่องของการเรียนรู้ หนังสือเล่มนี้ชวนให้เราคิดอย่างล้ำลึกเกี่ยวกับบทบาทของครูและนักเรียนในกระบวนการของการศึกษา

Stencilhouse ไม่ได้เสนอสูตรสำเร็จรูปในการออกแบบหลักสูตร แต่เขาได้มอบแนวทางที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ที่ต้องการสร้างสรรค์ประสบการณ์การเรียนรู้ที่มีคุณค่าและมี意义 สำหรับผู้ที่กำลังมองหาหนังสือที่ท้าทายความคิดและจุดประกายแรงบันดาลใจ “Ways of Curriculum Making” จะเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมอย่างแน่นอน.

คำแนะนำ:

  • ผู้ที่สนใจอ่าน “Ways of Curriculum Making” ควรมีพื้นฐานทางด้านการศึกษาหรือจิตวิทยาการเรียนรู้
  • หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับการอ่านแบบค่อยเป็นค่อยไปและสะท้อนความคิดหลังจากอ่านแต่ละบท